มอร์แกน สแตนลีย์ บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลก วิเคราะห์ว่า หากโครงการกองทัพอวกาศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประสบความสำเร็จจริง เขาอาจสามารถสร้างเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯได้สูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งโดยตรงไปยังกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ให้ดำเนินการจัดตั้ง 'กองทัพอวกาศ' ในฐานะกองทัพที่ 6 ของสหรัฐฯ โดยทันที ซึ่งทรัมป์ได้พูดเรื่องนี้ในการประชุมสภาอวกาศแห่งชาติ หรือ NSC ครั้งที่ 3
โดยกองทัพอวกาศนี้จะเป็นกองทัพใหม่ที่มีฐานะเทียบเท่ากองทัพอีก 5 กองทัพ ที่ทำหน้าที่ปกป้องมาตุภูมิของสหรัฐฯ ซึ่งประกอบไปด้วย กองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ นาวิกโยธิน และหน่วยยามฝั่ง ซึ่งตอนนี้ภารกิจสอดส่องและดูแลอวกาศเป็นความรับผิดชอบของกองทัพอากาศ แต่ทรัมป์บอกว่าแผนการของเขาคือ การแยกกองทัพอวกาศออกมาเป็นกองทัพใหม่ ซึ่งจะมีฐานะเทียบเท่ากับกองทัพอื่น
ทรัมป์กล่าวว่า การปกป้องสหรัฐฯ จากภัยคุกคามต่าง ๆ แค่ส่งชาวอเมริกันไปอยู่บนอวกาศยังไม่เพียงพอ แต่สหรัฐฯต้องเป็นเจ้าแห่งอวกาศด้วยโดยเขาจะไม่ยอมให้จีนหรือรัสเซียเป็นผู้นำในเรื่องการสำรวจอวกาศ ซึ่งทรัมป์ยังได้สัญญาว่า เขาจะส่งนักบินอวกาศอเมริกันกลับไปที่ดวงจันทร์ และเดินทางไปยังดาวอังคารด้วย อย่างไรก็ตาม การก่อตั้งกองทัพอวกาศยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีตามคำสั่งของทรัมป์ เนื่องจากต้องรอให้สภาคองเกรสอนุมัติเสียก่อน
ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า เขายินดีที่จะให้บริษัทเอกชนสำรวจอวกาศและพัฒนาโครงการเดินทางไปดาวอังคาร ซึ่งหากบริษัทเอกชนของคนอเมริกันสามารถทำได้สำเร็จ ก็จะสร้างชื่อเสียงต่อประเทศชาติเช่นกัน
ล่าสุด บริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ ผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันมีสาขากระจายทั่วโลกมากกว่า 42 ประเทศ ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงผลประโยชน์มหาศาลที่อาจเกิดขึ้นหลังการจัดตั้งกองทัพอวกาศของสหรัฐฯ โดยขณะนี้บริษัทมอร์แกนสแตนลีย์สามารถระบุหุ้นดาวเด่นแห่งวงการอวกาศได้แล้วถึง 20 ตัว และได้จับตาบริษัทเอกชน 100 แห่งที่เน้นการลงทุนในด้านของเทคโนโลยีอวกาศอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นจรวด การส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม การท่องเที่ยวอวกาศ และการทำเหมืองอวกาศ ซึ่งตอนนี้เป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลมหาศาล
ในจดหมายที่ทางบริษัทมอร์แกน สแตนลีย์ ส่งให้กับลูกค้าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาระบุว่า หลังจากที่ทางบริษัทได้ไปพูดคุยกับบุคคลสำคัญที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาลและมีความเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกองทัพอวกาศนี้ พวกเขาต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า อวกาศคือพื้นที่สำคัญที่มีศักยภาพในการพัฒนาได้อีกหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศของสหรัฐฯ
หากจะมองให้ลึกขึ้น บริษัทมอร์แกนสแตนลีย์คาดการณ์ว่า ปัจจุบันอวกาศมีมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อชาวโลกสูงถึง 350,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเปรียบได้กับครึ่งหนึ่งของ GDP ของทุกประเทศทั่วโลกรวมกัน ซึ่งแนวโน้มในปัจจุบันพบว่า มูลค่ามีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการที่มีผู้เล่นมากมายเริ่มที่จะหันมาลงทุนกับการพัฒนาด้านจรวดและอวกาศกันมากขึ้น อย่างเช่นการสร้างจรวดรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่และประหยัดต้นทุน การเดินทางออกนอกโลก และการที่ทั่วโลกเห็นความสำคัญในการใช้พื้นที่ในอวกาศเป็นศูนย์รักษาความมั่นคงของแต่ละประเทศ อาจทำให้เม็ดเงินเพิ่มสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ได้ในอนาคตอันใกล้
ความชัดเจนว่าท้ายที่สุดแล้วกองทัพอวกาศนั้นจะตกไปอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงใด หรือถูกบริหารงานไปในทิศทางใด ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตารอต่อไป แต่การออกคำสั่งโดยตรงไปยังกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ให้ดำเนินการจัดตั้ง 'กองทัพอวกาศ' ในฐานะกองทัพที่ 6 ของสหรัฐฯ โดยทันทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ คือสิ่งที่มั่นใจได้ว่าสหรัฐฯ พร้อมเอาจริงกับเรื่องนี้