รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2563
แอดฯ ถึงกับต้องซูฮกในความแหลม ปนแสบของ “เฮียวิโรจน์” ส.ส.ก้าวไกล ลุกขึ้นเบรก ส.ส.พลังประชารัฐ ที่ยิ่งพูดยิ่งของขึ้น ยิ่งพูดยิ่งส่อทำคนเข้าใจว่ากำลังเปรียบทั่นผู้นำเป็น “สุนัข”
แต่ที่ “ชัยวุฒิ” ไปไกลมาก คือกล่าวหานักการเมืองหนุนม็อบ [แบบไร้หลักฐาน] ใส่ชุดข้อมูลต่อต้านสถาบัน เหมือนกับการฝังชิป...อู้หู จินตนาการล้ำเลิศไปอีก
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า ก่อนที่จะพิจารณาข้อเสนอก็ต้องดูที่เจตนาของบุคคลผู้ยื่นข้อเสนอ วันนี้ผู้ชุมนุมคิดอย่างไรกับบ้านเมือง มองว่าคนไทยทั้งประเทศรู้หมดแล้ว ถ้าไม่รู้ก็คงไม่ใส่เสื้อเหลืองชุมนุมกันทั่วประเทศ // วันนี้สภาต้องเอาความจริงมาพูด ความจริงที่คนเขารู้กันหมดแล้ว อย่ามาดัดจริต ในการชุมนุมเสนอให้ยกเลิกการใช้บริการธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งคนถือหุ้นคือสถาบันพระมหากษัตริย์ ปราศรัย 1 ชั่วโมง โจมตีรัฐบาล 10 นาที ที่เหลือโจมตีสิ่งที่อยู่เหนือรัฐบาล กล่าวหารัฐบาลเป็นหมา แต่ถ้าหมาเห่า จะไม่ทะเลาะกับหมา แต่จะทะเลาะกับเจ้าของหมา
อยากให้เข้าใจว่าการชุมนุมมีข้อเท็จจริงอย่างใด โดยเฉพาะการขัดขวางขบวนเสด็จ ใช้คำหยาบคาย ฉีกรูปพระบรมฉายาลักษณ์ และใช้ชื่อการชุมนุมว่าคณะราษฎร เราก็เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร เป็นสิ่งที่เขาพูดกันแต่เรา (สภา) ทำเป็นไม่ได้ยิน วัตถุประสงค์ไม่ใช่เรื่องเล็ก เป้าหมายแท้จริงคือการเปลี่ยนแปลงอะไร เราทราบกันดี ปัจจัยที่เกิดขึ้นมาจากการใช้โซเชียลมีเดีย มีการส่งข่าวปลอม บิดเบือนข้อมูล มีการตัดต่อ สร้างเพจโจมตี เขาจาบจ้วงสถาบัน บิดเบือนอยู่ทุกวัน เราต้องเอาอำนาจอธิปไตยในการด้านการสื่อสารกลับมาเป็นของคนไทย เราจะปล่อยให้คนต่างชาติเอาโซเชียลมีเดียมาทำร้ายคนไทยอีกได้หรือไม่ เราต้องคิด
ปัจจัยต่อมาคือเงินทุน ทุกการเคลื่อนไหวของมวลชนต้องใช้เงิน เงินมาจากต่างชาติใช่ไหม ไม่ใช่จากคนที่หวังดีกับบ้านเมืองหรอก เราพูดถึงอเมริกา ประเทศมหาอำนาจเขาสู้กันไทยเป็นหนึ่งในสมรภูมิที่เขากำลังใช้ และสามคือนักการเมืองบางกลุ่มใช้กระแสเรื่องนี้เป็นเครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจ เขาเล่นเรื่องนี้มานานแล้ว สร้างคะแนนนิยมหาเสียง สร้างมวลชน เป้าหมายเขาไม่ใช่การเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็นอะไรที่มากกว่านั้นแน่นอน ส่วนตัวไม่มีปัญหากับคนรุ่นใหม่ เขาต่อสู้เพื่อบ้านเมือง ยากจน เรียนจบมาไม่มีงานทำ มีงานทำก็ไม่พอกิน วันนี้มีนักการเมืองหยิบยื่นว่าเขาจะมีอนาคตใหม่ แต่มีสิ่งหนึ่งกดทับอยู่ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองก่อน
การอภิปรายของนายชัยวุฒิ ทำให้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้ง นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประท้วงว่า นายชัยวุฒิ ใส่ร้ายผู้ชุมนุม เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับอดีตนายกฯ ท่านหนึ่ง เป็นการปรักปรำฝ่ายตรงข้าม ไม่นำเสนอทางออก ฝ่ายรัฐบาลใส่ร้ายและพยายามพูดถึงอนาคตใหม่ 2 ครั้ง นอกจากนายชวน ยังติงการพูดพาดพิงบุคคลนอกสภาของนายชัยวุฒิหลายครั้งด้วย
นายชัยวุฒิ ชี้แจงว่า ไม่ได้หมายถึงอนาคตใหม่ แต่หมายถึงอนาคตของประชาชน ที่มีนักการเมืองไปหลอกและฝังชิพ ว่าชีวิตจะดีได้ต้องเปลี่ยนแปลงการปกครอง คนทั้งประเทศรู้ มีสภานี้ที่เดียวที่ไม่รู้ เมื่อนักการเมือง โซเชียลมีเดีย และเงินทุนมารวมตัวกัน ถ้าตัดสามสิ่งนี้ได้จะชนะ แต่ถ้าตัดไม่ได้ก็ขอเสนอ 5 ทางเลือก โดยระหว่างที่พูดข้อ 1. คือ นายกรัฐมนตรีลาออก ถูกนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ลุกขึ้น ประท้วง กรณีเปรียบเทียบเรื่องหมา ที่อาจถูกทำให้เข้าใจได้ว่าคือ พล.อ.ประยุทธ์
ส่วน 4 ข้อที่เหลือประกอบด้วย ข้อ 2. ยุบสภา เยาวชนปลดแอก อยากเปลี่ยนแปลงประเทศก็ให้สนับสนุนพรรคแล้วสู้ให้ชนะให้ได้ 376 เสียงในสภา แต่จะมีคนไทยอีกกลุ่มใส่เสื้อเหลืองมาประท้วงก็ไม่จบ ที่สุดก็เป็นการซื้อเวลา และช่วงยุบสภาเศรษฐกิจก็เสียหา
3.ยึดอำนาจเหมือนสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร และให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน แต่สุดท้ายจอมพลถนอมเกิดเหตุการณ์ที่ประชาชนมาขับไล่
4.ทำประชามติ
5.ไม่ต้องทำไรเลย อยู่กันแบบนี้
ช่วงท้าย นายชัยวุฒิ ระบุว่า คนไทยไม่มีวันแพ้ ต้องจับมือ อยู่ร่วมกันในผืนแผ่นดินนี้ เราต้องชนะ เราต้องสู้ไปด้วยกัน โดยนายชวน กล่าวว่า อย่าทำให้ประชาชนผิดหวังเราครับ