หนึ่งในผู้บริหารโฟล์กสวาเกนยอมรับว่า รถยนต์ของบริษัทปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์คิดเป็นปริมาณ 2 % ของการปล่อยก๊าซทั้งโลก
ไมเคิล จอสต์ ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจของโฟล์กสวาเกน ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดัง เปิดเผยกับนิตยสารธุรกิจรายสัปดาห์ของเยอรมนี ว่าบริษัทมีการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยรถยนต์ที่ผลิตคร่าว ๆ พบว่า รถยนต์ทั่วไปเป็นสาเหตุของคาร์บอนไดออกไซด์ 1 % ที่ปล่อยอยู่ทั่วโลก และรถกระบะเป็นสาเหตุอีก 1 % รวมสินค้าของบริษัทปล่อยก๊าซทั้งสิ้น 2 % ของปริมาณทั่วโลก
ขณะที่ ประเทศเยอรมนีมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คิดเป็น 2.2 % ของทั้งโลก หรือคิดเป็นปริมาณ 800 ล้านตัน ซึ่งมากเป็นอันดับ 6 ของโลก เมื่อเทียบจากดัชนีชี้วัด Global Carbon Project เมื่อปี 2017 เท่ากับว่า โฟล์กสวาเกนเป็นสาเหตุของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเกือบเท่ากับประเทศ 1 ประเทศ ทำให้บริษัทต้องวางกลยุทธ์เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ โฟล์กสวาเกนยังไม่สามารถฟื้นฟูภาพลักษณ์จากกรณีการโกงตรวจไอเสียรถยนต์เมื่อปี 2015 ได้โดยสมบูรณ์ แต่ได้วางแผนจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้เป็น 70 % ของปริมาณการผลิตภายในปี 2028 หรือก็คือในอีก 9 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนลงจากที่เป็นอยู่ภายในปีหน้านี้ด้วย ปัจจุบัน โฟล์กสวาเกนผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 12 แบรนด์ และตั้งเป้าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด ราว 22 ล้านคันในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปรับจากสหภาพยุโรป และลดมลพิษ