7 ต.ค. 2562 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เข้ายื่นคำร้องถึงศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำพิพากษาเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2562 ที่มีมติเห็นชอบให้นำคำขอตั้งงบประมาณของรัฐบาลชุดก่อนมาปรับปรุงแทนการจัดทำงบประมาณขึ้นใหม่ 

นายเรืองไกร กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 23 กำหนดให้การจัดทำงบประมาณต้องคำนึงถึงประมาณการรายรับ ฐานะทางการคลังของประเทศ ความจำเป็นในการพัฒนาประเทศ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยไม่มีคำว่าทบทวน ปรับปรุง เพิ่มเติม จึงน่าจะแปลความได้ว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ครม. ชุดปัจจุบัน จะต้องจัดทำงบประมาณขึ้นใหม่หลังการแถลงนโยบายเสร็จสิ้นแล้ว

ทั้งนี้ เนื่องจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยลงนามในหนังสือของสำนักงบประมาณ ลงวันที่ 29 เม.ย. 2562 ที่เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อ ครม. ชุดใหม่ แถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎรและเข้าปฏิบัติหน้าที่แล้ว สำนักงบประมาณจะเสนอปฏิทินจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ต่อไป

การที่ ครม. ชุดนี้ มีมติเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2562 เห็นชอบให้มีการนำคำขอตั้ง ของรัฐบาลชุดก่อนมาปรับปรุงแทนการจัดทำงบประมาณขึ้นใหม่ เป็นการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด จึงขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนมติ ครม. ดังกล่าว

นายเรืองไกร ยังระบุอีกด้วยว่า ขั้นตอนต่างๆ ที่รัฐบาลทำ เหมือนการลักไก่ ที่เอาร่างทำของบประมาณเดิมมาตัดแปะเปลี่ยนปกใหม่ ตนได้ค้นหาในอินเทอร์เน็ต โดยการใช้กูเกิลอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอก อาจจะชำนาญกว่าจึงหาได้เจอ อย่างเช่น ร่างของกระทรวงอุดมศึกษาฯ และพบว่า มีการทำแบบนี้เกือบทุกกระทรวง ทบวง กรม นายเรืองไกรยังกล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 54 ได้ระบุไว้ว่า การอนุมัติงบประมาณที่ผิดพลาดจะต้องมีผู้รับผิดชอบ หากมีการนำเงินไปใช้แล้วก็ต้องมีคนนำเงินดังกล่าวมาใช้คืน ไม่ได้กำหนดความผิดทางอาญาเอาไว้ แต่เชื่อว่าสามารถไปดำเนินการได้ตามกฎหมายอื่น

"ผมไม่ได้มุ่งร้าย เพราะไม่อย่างนั้น คงรอให้ถึงต้นปี 2563 แล้วมาร้อง ถึงตอนนั้นถ้าผิดประชาชนจะเดือดร้อน กับการที่งบประมาณปี 2563 ไม่ผ่าน ตอนนี้เรามาชี้ให้เห็นความผิดพลาด เพื่อให้รัฐบาลกลับไปแก้ไขให้ถูกต้องตามขั้นตอน” นายเรืองไกร กล่าว