ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ บริเวณที่ดินเปล่า แยกวงศ์สว่าง เพื่อพูดคุยกับเอกชน ในการยกที่ดินให้ กทม. ทำเป็นสวนสาธารณะ โดยการลงพื้นที่ในวันนี้มาพร้อมกับ จักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และ ภิมุข สิมะโรจน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า 

ผู้สื่อข่าวถาม ชัชชาติ ว่า ถือเป็นการเปิดตัวรองผู้ว่าฯ และ เลขาฯ ผู้ว่าฯ กทม.เลยหรือไม่ ชัชชาติ ระบุว่า ทั้งสองท่านก็มาช่วยทำงานอยู่แล้ว ส่วนตำแหน่งไหนให้รอประกาศอีกครั้ง วันนี้ ให้มาทดลองงานก่อน ว่าทำงานดีหรือไม่ ซึ่งตนเองได้พูดคุยทั้งหมดแล้ว และมีทีมทำงานครบหมดแล้ว แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ รองผู้ว่าฯ และเลขา มีทั้งหมด 5 ท่าน กลุ่มที่ปรึกษาการเมือง 9 ท่าน ส่วนกลุ่มที่สามคือกลุ่มที่ปรึกษาทางวิชาการไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นจำนวนมาก เป็นที่ปรึกษาเฉพาะทาง เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ก่อนหน้านี้ช่วงหาเสียงมาช่วยงานไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องการเมือง แต่หลังได้ตำแหน่งแล้ว กลุ่มนี้จะเปิดตัวได้ชัดเจนขึ้น และตอนนี้มีครบแล้วส่วนการติดตามการรับรองจาก กกต.ก็คงต้องรอท่านแจ้งอีกครั้ง

ชัชชาติ ยังบอกอีกว่า เงื่อนไขเดียวที่เลือก จักกพันธุ์ เพราะตนเองตื่นตี 4 คุยงานกับท่านได้ ท่านตื่นตี 4 เหมือนกัน สบาย และส่วนมากก็คุยเรื่องงาน กฎหมาย หากติดขัดอะไรท่านหาข้อมูลประสานให้ได้หมด และ จักกพันธุ์ เป็นคนขยัน ใจบุญ ซื่อสัตย์สุจริตได้รับการรับรองเรื่องนี้จากข้าราชการ กทม. 

ส่วน ภิมุข ก็ทำงานด้วยกันมานาน เป็นนักธุรกิจ ทำการเมืองได้ บุคลิกดี ลุยด้วยกันได้ และเคยทำการเมืองเข้าใจประชาชนได้ครบในทุกมิติ ส่วนจะตำแหน่งเลขาฯหรือไม่ คงพูดคุยกันอีกที 

“ทุกคนที่มาช่วยไม่มีใครอยากได้ตำแหน่ง จากคนที่มาช่วยเป็น100คน ตนก็จะดูว่าคนไหนเหมาะกับงานอะไร ซึ่งเป็นข้อดีของการเป็นอิสระ ทุกตำแหน่งก็เป็นคนเลือกด้วยมือตัวเอง ไม่ต้องมีคนมาสั่ง ทำให้เราสบายใจ คนทำงานก็สบายใจ มองว่านี่คือพลังของความเป็นอิสระ เพราะสามารถเลือกคนที่เราเห็นได้และทำให้เรามั่นใจ ส่วนแนวร่วมเพิ่มเติมก็มีผู้หญิงแน่นอน และมีคนพิการด้วย

ขณะที่ จักกพันธุ์ บอกว่า ก็พร้อมรับตำแหน่ง หาก กกต.รับรอง และเหตุผลที่ตัดสินใจมาร่วมงาน ยอมรับว่า กทม.ต้องพัฒนาอีกเยอะ ที่ผ่านมาปัญหาเรื่องการเมืองค่อนข้างเยอะ ตอนที่ตนเองตัดสินใจเข้าร่วมกับ ชัชชาติ เพราะความเป็นอิสระ ซึ่งมองว่า หากการบริหารงานมีความเป็นอิสระ ก็จะทำให้ กทม.เกิดการพัฒนาขึ้นอย่างมากมาย และ ชัชชาติ เป็นคนเก่งเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถช่วยพัฒนา กทม.ได้ 

ส่วน ภิมุข บอกว่า สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจมาร่วมงาน กับ ชัชชาติ เพราะชอบงานการเมืองอยู่แล้ว แต่ช่วงที่เว้นวรรคไปเพราะเห็นบรรยากาศมันขัดแย้ง และตนเองชอบงาน กทม.เป็นหลัก พอเห็น ชัชชาติ มาตั้งทีม ทำงานกทม.แบบอิสระ ก็น่าจะมาช่วยได้ เลยอาสาตัวเข้ามา ยืนยันว่า ไม่ได้คิดถึงเรื่องตำแหน่ง แค่อยากมาช่วยงานจริงๆ