ในขณะที่เกิดความโกลาหลทางภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่ยูเครนทางตะวันออก สืบเนื่องจากสงครามยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินว่า ทางการรัสเซียในปี 2557 มีอำนาจควบคุมพื้นที่โดยรวมของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ในพื้นที่ของยูเครนทางตะวันออก ซึ่งสำนวนการฟ้องระบุว่า การยิงเครื่องบินเที่ยวบิน MH17 เกิดขึ้นจากบริเวณดังกล่าว
เฮนดริก สตีนฮุยส์ ประธานผู้พิพากษากล่าวว่า หลักฐานที่นำเสนอโดยอัยการในการพิจารณาคดี ซึ่งกินเวลามานานกว่า 2 ปีพิสูจน์ว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่บินออกจากอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ ไปยังกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ถูกขีปนาวุธ Buk ซึ่งยิงโดยกองกำลังแบ่งแยกดินแดนยูเครน ที่ให้การสนับสนุนรัสเซีย เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2557 ส่งผลให้เกิดซากปรักหักพังของเครื่องบิน และร่างศพกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่การเกษตรและทุ่งทานตะวันของยูเครน
ชาย 3 คน ซึ่งยังคงสามารถยื่นอุทธรณ์คำตัดสินได้ ไม่ได้เข้าร่วมการพิจารณาคดี ในห้องพิจารณาคดีที่ถูกปิดล้อมอย่างแน่นหนา ริมสนามบินสคิปโฮลของอัมสเตอร์ดัม ห่างออกไปไม่ไกลจากที่ที่เครื่องบินเที่ยวบิน MH17 ออกเดินทาง โดยอัยการร้องขอโทษจำคุกตลอดชีวิตต่อชายทั้งสี่ อย่างไรก็ดี อัยการและผู้ต้องสงสัยมีเวลา 2 สัปดาห์ในการยื่นอุทธรณ์ ทั้งนี้ สมาชิกในครอบครัวหลายร้อยคนที่เสียชีวิตบนเครื่องบิน ได้เดินทางไปยังศาลเพื่อฟังคำตัดสิน ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า
ศาลตัดสินว่าชาย 3 คน ได้แก่ ไอกอร์ เกียร์คิน และ เซอร์เก ดูบินสกี ชาวรัสเซีย และ ลีโอนิด คาร์เชนโก สมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวยูเครน ร่วมกันใช้ระบบขีปนาวุธ Buk จากฐานทัพทหารรัสเซียในยูเครน เพื่อเตรียมการสำหรับการยิง และแม้ว่าการยิงเที่ยวบิน MH17 อาจเป็นการคำนวณผิดพลาดของกองทัพรัสเซีย สตีนเฮาส์กล่าวว่า "ข้อผิดพลาดดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงเจตนาได้" โดยญาติๆ ของผู้สูญเสียระบุว่า คำตัดสินชี้ให้เห็นว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตทั้งหมดบนเครื่องบิน
เจ้าหน้าที่อาวุโสที่สุดที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคือ เกียร์คิน อดีตพันเอกวัย 51 ปีในหน่วยสายลับของรัสเซียหรือ FSB ในช่วงเวลาที่เครื่องบินตก เขาเคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ ที่ประกาศรับรองสถานะการเป็นประเทศโดยรัสเซีย ซึ่งเป็นภูมิภาคหนึ่งของยูเครนที่เครื่องบินลำดังกล่าวถูกยิงตก มีรายงานอีกว่า เกียร์คินมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสงครามกับยูเครนของรัสเซีย
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเกียร์คินอย่างดูบินสกีและคาร์เชนโก ซึ่งเป็นชาวยูเครน ถูกอัยการกล่าวว่าเป็นผู้บัญชาการหน่วยรบฝ่ายกบฏที่สนับสนุนรัสเซีย และรับคำสั่งโดยตรงจากดูบินสกี ทั้งหมดถูกตัดสินว่ามีความผิดและได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ในขณะที่ โอเลก ปูลาตอฟ ชายชาวรัสเซีย เป็นผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียวที่ได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากศาลชี้ว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าเขากระทำความผิดจริง
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนกล่าวถึงคำตัดสินของศาลในกรณี MH17 ว่าเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ ในการหาความรับผิดชอบสำหรับอาชญากรรมดังกล่าว แต่เซเลนสกีกล่าวเสริมว่า ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินคดีและการลงโทษเพิ่มเติม “มันเป็นการตัดสินคดีที่สำคัญในศาล ณ กรุงเฮก... มันจำเป็นที่ผู้สั่งการจะต้องถูกจับขังด้วย เพราะการไม่ต้องรับโทษจะนำไปสู่การก่ออาชญากรรมครั้งใหม่” เซเลนสกีระบุว่าทวิตเตอร์
โฆษกของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียยังไม่พร้อมที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตัดสินคดี MH17 “เราจะศึกษาการตัดสินคดีนี้ สำหรับคำถามเหล่านี้ ทุกความแตกต่างมีความหมาย ดังนั้นหลังจากศึกษาเอกสารการพิจารณาคดีนี้แล้ว เราจึงจะพร้อมที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้” อีวาน เนเชฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าว
ที่มา: