เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเข้าประชุมกับปูตินในเครมลิน โดยลาฟรอฟระบุกับปูตินว่า ตนเชื่อว่ายังคงมีพื้นที่ในการพูดคุยบนฐานข้อเรียกร้องของรัสเซีย เพื่อการหาข้อตกลงด้านความมั่นคงใหม่กับทางชาติตะวันตก ในขณะที่กองทัพของรัสเซียกว่าแสนนายเดินทางเข้าประชิดชายแดนยูเครนแล้วตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
“เราขอเตือนไปถึงบทสนทนาที่ไม่สิ้นสุด ในประเด็นปัญหาที่ต้องแก้ไขลงในวันนี้ อย่างไรก็ดี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผมต้องบอกว่ามันยังคงมีโอกาสเสมอ” ลาฟรอฟกล่าวกับปูตินในที่ประชุม โดยการประชุมดังกล่าวถูกบันทึกภาพอย่างระมัดระวัง เพื่อส่งข้อความจากทางรัสเซียไปยังพันธมิตรตะวันตกว่า ตนพร้อมพูดคุยเสมอเพื่อหาทางออกจากวิกฤตนี้
นักการทูตอาวุโสของทางรัสเซียเปิดเผยกับสำนักข่าว The Guardian ว่า ทางรัสเซียมีสิทธิชอบธรรมโดยตรงในการ “ตอบโต้การโจมตี” หากรัสเซียรู้สึกว่าทางยูเครนข่มขู่ประชากรในยูเครนฝั่งตะวันออก ซึ่งมีความใกล้ชิดกับทางรัสเซีย นอกจากนี้ วลาดิเมียร์ ชิซฮอฟ ทูตรัสเซียประจำกรุงบรัสเซลของสหภาพยุโรประบุย้ำว่า “เรา (รัสเซีย) จะไม่บุกยูเครนนอกเสียจากว่าเราถูกยั่วยุให้ทำสิ่งนั้น”
ปัจจุบันนี้ กองทัพรัสเซียกว่า 145,000 นาย ได้เข้าประชิดชายแดนยูเครนแล้ว และถึงแม้ว่าทางการรัสเซียจะยืนยันมาโดยตลอดว่า ทางรัสเซียจะไม่ทำการรุกรานยูเครน เพียงแต่ขอให้มีการพูดคุยเจรจาในประเด็นที่พันธมิตรตะวันตกจะให้หลักประกันว่า ยูครนจะไม่สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (์NATO) และชาติตะวันตกจะต้องรับประกันว่าจะหยุดการขยายอำนาจและอิทธิพลของตนเข้ามายังยุโรปตะวันออก
ในทางตรงกันข้าม สหรัฐฯ ในฐานะผู้นำของพันธมิตรชาติตะวันตกคาดการณ์ว่า รัสเซียอาจเปิดฉากทำการโจมตีทางอากาศใส่ยูเครนในช่วงวันพุธที่จะมาถึงนี้ (16 ก.พ.) อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ปฏิเสธว่าตนจะไม่บุกยูเครนนอกเสียจากจะมีการยั่วยุ หรือประชาชนชาวรัสเซียถูกสังหารโดยกองกำลังของยูเครนก่อน ทั้งนี้ ชาติตะวันตกยังคงปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย และยังคงยึดนโยบายการเปิดกว้างขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือต่อยูเครน
ในวันนี้ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตีของเยอรมนีจะเข้าพบปูติน ณ กรุงมอสโก เพื่อหารือและพูดคุยกันในประเด็นวิกฤตยูเครนเพิ่มเติม หลังจากที่สัปดาห์ก่อน โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ต่อสายพูดคุยกับปูติน และ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เดินทางมาพบปูตินที่กรุงมอสโก อย่างไรก็ดี ความพยายามของชาติตะวันตกทั้งสองครั้งกลับล้มเหลวและยังหาข้อยุติในความตึงเครียดนี้ไม่ได้
ทั้งนี้ ปูตินยังคงย้ำมาโดยเสมอว่า การพุดคุยทั้งหมดเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นในการเจรจา และยังคงมีประเด็นรายละเอียดอีกมากที่ทางรัสเซียพร้อมจะพูดคุยในอนาคต อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ (14 ก.พ.) ทางการยูเครนระบุว่าตนต้องการหารือกับรัสเซียภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อหาทางออกจากวิกฤตในครั้งนี้ ก่อนอ้างว่ารัสเซียไม่ตอบรับการขอพูดคุยเจรจาใดๆ กับทางยูเครน
“อธิปไตยและเอกราชทางดินแดนของยูเครนไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถต่อรองได้” โชลซ์ออกแถลงการณ์ร่วมกับโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน หลังการเข้ารือเมื่อวานนี้ (14 ก.พ.) ณ กรุงเคียฟ นอกจากนี้ ไบเดนยังให้การรับประกันกับทางเซเลนสกีว่า สหรัฐฯ พร้อมให้การสนับสนุนยูเครน และพันธมิตรตะวันตกจะมีการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรง หากรัสเซียตัดสินใจบุกยูเครนจริง
ปัจจุบันนี้ พันธมิตรตะวันตกหลายชาติได้ประกาศให้พลเมืองของตนเอง อพยพออกจากบริเวณยูเครนตะวันออกแล้ว โดยสหรัฐฯ เองได้ปิดสถานทูตประจำกรุงเคียฟลงชั่วคราว และอพยพเจ้าหน้าที่ของตนเองเข้ามายังยูเครนฝั่งตะวันตกเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ โลกยังคงจับตาความตึงเครียดในวิกฤตยูเครน-รัสเซียต่อไป เพราะยังไม่มีใครมั่นใจว่าสงครามอาจจะไม่เกิดขึ้นเลย หรืออาจมีการเปิดฉากการบุกรุกขึ้นในวันใดวันหนึ่งก็เป็นได้
ที่มา:
https://edition.cnn.com/europe/live-news/ukraine-russia-news-02-11-22/index.html