ต่างประเทศ
สื่อโซเชียลคว่ำบาตรเชฟดัง ต้อนรับผู้นำเวเนซุเอลา 'กินหรู' ขณะที่ประชาชนอดอยาก
นิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา พร้อมด้วยซิเลีย มาดูโร ผู้เป็นภริยา กลับจากการปฏิบัติภารกิจเยือนเอเชียเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้แวะพักที่นครอิสตันบูลของตุรกีเพื่อรับประทานอาหารที่ภัตตาคารของ 'นูซเร็ต โกค์เช' หรือ 'ซอลต์เบ' เชฟชื่อดังชาวตุรกี ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อาหารขึ้นชื่อในภัตตาคารของซอลต์เบ ซึ่งมีสาขาอยู่ในหลายประเทศ ได้แก่ สเต็กซี่โครงเนื้อ ราคาขั้นต่ำจานละกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,300 บาท ส่วนสื่อเวเนซุเอลาได้เผยแพร่วิดีโอที่มาดูโรกล่าวว่า การรับประทานอาหารที่ภัตตาคารของซอลต์เบ เป็นโอกาสที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เรียกว่าเป็น 'ครั้งหนึ่งในชีวิต' ก็ว่าได้ ทั้งยังมีภาพที่เขาสูบซิการ์ซึ่งเสิร์ฟมาในกล่องหรู
ซอลต์เบเป็นผู้ปรุงและเสิร์ฟอาหารให้ ปธน.มาดูโรและคณะด้วยตนเอง หลังจากนั้นเขายังได้นำคลิปวิดีโอและภาพบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองอีกด้วย โดยปัจจุบัน มีผู้ติดตามบัญชีทวิตเตอร์ของซอลต์เบกว่า 10 ล้านคน ส่วนผู้ติดตามอินสตราแกรม มีจำนวนกว่า 16 ล้านคน
แต่หลังจากเผยแพร่ภาพมาดูโรและคณะในภัตตาคารที่อิสตันบูล ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากกลับแสดงความไม่พอใจต่อซอลต์เบที่ให้การต้อนรับมาดูโร ทั้งยังประกาศว่าจะคว่ำบาตร เลิกติดตามผลงาน และไม่สนับสนุนร้านอาหารของซอลต์เบอีกต่อไป
ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่พอใจระบุว่า มาดูโรรับประทานอาหารราคาแพงในภัตตาคารชื่อดังในต่างประเทศ ทั้งที่ประชาชนเวเนซุเอลากำลังเผชิญความอดอยาก เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และการยึดกิจการของเอกชนมาเป็นของรัฐ แต่รัฐบาลมาดูโรไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทำให้คนตกงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระแสต่อต้านที่ค่อนข้างจะรุนแรง ทำให้ซอลต์เบตัดสินใจลบภาพและคลิปวิดีโอจำนวนหนึ่งซึ่งเขาถ่ายคู่กับมาดูโรและภริยาเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ทิ้งไป
เว็บไซต์ไมอามีเฮรัลด์ สื่อท้องถิ่นของสหรัฐฯ รายงานอ้างอิงผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนหนึ่ง ซึ่งระบุว่าจะเลิกติดตามซอลต์เบ ขณะที่เว็บไซต์ Yelp แหล่งรวบรวมคำแนะนำของผู้ใช้บริการธุรกิจห้างร้านต่างๆ ประกาศปิดหน้าเพจแนะนำภัตตาคาร Nusr-Et Miami ซึ่งเป็นร้านของซอลต์เบในไมอามีเป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็นโจมตีซอลต์เบที่ให้การต้อนรับมาดูโร จนทำให้ระบบออนไลน์ได้รับผลกระทบ และความเห็นส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพอาหารและบริการ เยลป์จึงจำเป็นต้องปิดให้บริการหน้าเพจดังกล่าวไปก่อน
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงผลวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งชาติเวเนซุเอลา ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า 2 ใน 3 ของประชากรเวเนซุเอลาผู้ตอบแบบสอบถาม น้ำหนักลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 11 ก.ก. ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากประสบภาวะขาดแคลนอาหารและตกงาน
ส่วนวิกฤตเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งเวเนซุเอลาได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันโลกที่ตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับ ปธน.มาดูโร ผู้ถูกวางตัวเป็นทายาทของอูโก ชาเบซ อดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ เข้ารับตำแหน่งโดยที่ไม่ได้มีประสบการณ์บริหารประเทศมากนัก ทำให้เขาถูกต่อต้านอย่างหนักจากฝ่ายค้านและนักธุรกิจที่ไม่เห็นด้วยกับการแทรกแซงกลไกเศรษฐกิจและการตัดสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ของอดีตรัฐบาลชาเบซ และเมื่อเกิดวิกฤตราคาน้ำมันเมื่อปี 2557 ทำให้เวเนซุเอลาเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ เวเนซุเอลายังเผชิญกับการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลจนถึงขึ้นจลาจลหลายครั้ง รวมถึงมีความพยายามก่อรัฐประหารโดยกลุ่มทหารแตกแถว แต่ประธานาธิบดีมาดูโรก็ถูกโจมตีว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการปราบปรามผู้เห็นต่างจากรัฐบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
