ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม. พร้อมด้วย ดร.ยุ้ย-เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ทีมนโยบายเพื่อนชัชชาติ และคณะทำงาน ลงสำรวจพื้นที่สุสานแต้จิ๋ว (วัดดอน) เขตสาธร กทม. โดยในช่วงเช้าในร่วมวิ่งออกกำลังกายกับทีมวิ่งของสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย บริเวณสวนแต้จิ๋ว ซอยเจริญราษฎร์ และเดินพบปะประชาชนในช่วงสาย 

โดย ดร.ชัชชาติ กล่าวว่า กทม. ควรให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวและสังคมผู้สูงอายุ โดยยกตัวอย่างเขตสาธร ที่มีผู้สูงอายุ (เกิน 60 ปี) ถึง 15% ของประชากรเขต ดังนั้นพื้นที่สีเขียวใกล้บ้านสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เช่น สุสานแต้จิ๋วแห่งนี้จึงมีความสำคัญมาก พร้อมชูนโยบาย "5 ส." เพื่อผู้สูงอายุ ประกอบด้วย 

1. 'สุขภาพ' เปิดศูนย์สุขภาพใกล้บ้าน ขยายเวลาทำการ

2. 'สะดวก' ปรับทางเท้า-ระบบขนส่งให้เหมาะสม

3. 'สังคม' เพิ่มชมรมผู้สูงอายุให้มากขึ้น

4. 'สร้างงาน' ให้โอกาสทำงานที่ตนถนัด

5. 'สวัสดิภาพ' เพิ่มเติมส่วนที่ยังขาด 

ดร.ยุ้ย เสนอคำว่า 'สังคมคนอายุยืน' แทน 'สังคมผู้สูงอายุ' หลายคนอาจคิดว่าผู้สูงอายุไม่เหมาะกับการทำงาน ทั้งที่ความจริงแล้วคนอายุเกิน 60 ที่ยังแข็งแรง ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดผลผลิตทางเศรษฐกิจได้ ตนมองว่า กทม. สามารถมีบทบาทเป็นตัวกลางช่วยให้ผู้สูงอายุหางานที่เหมาะกับตัวเองให้เจอ เพราะการทำงานจะช่วยให้มีความสุข มีจุดมุ่งหมาย และส่งผลให้อายุยืนขึ้นได้อีกด้วย 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) พรรคก้าวไกล จะเปิดตัวแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. อีกคน มีความเห็นอย่างไร ดร.ชัชชาติ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ดีเพราะทำให้เกิดการแข่งขัน เป็นการเพิ่มตัวเลือกให้ประชาชน และสำหรับกระแสข่าวว่าแคนดิเดตของพรรคก้าวไกล อาจจะเป็น ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร นั้น ดร.ชัชชาติ ตอบว่าเป็นเรื่องที่ดี เพียงแต่เสียดายความสามารถในงานด้านสภาฯ ของ ส.ส.วิโรจน์ เท่านั้น แต่ตนมองว่าการมีตัวเลือกเยอะจะทำให้ประชาชนตื่นตัว ซึ่งเป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย 

"ดีเลยครับ ยิ่งเปิดตัวเยอะยิ่งดี จะมีตัวเลือกเยอะเป็นเรื่องที่ดี ทำให้คึกคัก เสียดายอย่างเดียว ท่านเก่งมากงานในสภาฯ ผมชื่นชมท่านทำงานได้ดีในสภาฯ ถ้าท่านลาออก ส.ส. ก็เสียดายผลงานท่านอยู่ในสภา ให้ประชาชนตื่นตัวเป็นสิ่งที่ดีในระบอบประชาธิปไตย" 

สำหรับความขัดแย้งทางการเมืองปัจจุบัน ดร.ชัชชาติ มองว่าเป็นความขัดแย้งภายใน ไม่ได้เกี่ยวกับปัญหาที่ประชาชนเจอ ทั้งด้านเศรษฐกิจและค่าครองชีพ ซึ่งตนมองว่าไม่อยากเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ เพราะตนลงสมัครในนามอิสระ และกรุงเทพฯ มีปัญหาอีกมากมายรอให้แก้ จึงเห็นว่าควรเอาเวลามาทุ่มเททำงานดีกว่า พร้อมกับยืนยันว่าตนคงไม่กลับไปทำงานการเมืองหรือสภาฯ อีกแล้ว เนื่องจากตนและทีมงานมุ่งทำงานท้องถิ่นแล้ว ต่อให้ไม่มีเลือกตั้ง หรือไม่ได้รับเลือก ตนก็จะทำงานท้องถิ่นต่อไป เพราะหลายโครงการก็เริ่มต้นได้เลยโดยไม่ต้องรออำนาจรัฐ 

ทั้งนี้ ดร.ชัชชาติ และทีมงาน ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวนโยบายใหม่ ภายใต้แนวคิด "สภากาแฟ" โดยแนวร่วมเพื่อนชัชชาติ ได้ประสานกับร้านกาแฟในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ เพื่อเปิดให้ประชาชนมาสนทนาแลกเปลี่ยนกัน โดยจะเปิดตัวในวันที่ 25 ม.ค. นี้ พร้อมกัน 20 แห่ง และจะทยอยเปิดอีกทุกแขวงทั่วกรุงเทพฯ