เมื่อกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จอห์นสันกล่าวว่า “เราจดจำช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของเราว่าเป็นชั่วโมงที่ดีที่สุดของเรา” ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรจะกล่าวในรัฐสภายูเครนว่า ผู้ที่ยืนหยัดปกป้องประเทศของตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย จะทำให้สงครามในครั้งนี้เป็น “ชั่วโมงที่ดีที่สุด” ของยูเครน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มี.ค. โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้แถลงผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในรัฐสภาสหราชอาณาจักร ก่อนที่คำแถลงของเซเลนสกีจะกลายเป็นประโยคประวัติศาสตร์ จากการที่เซเลนสกีได้หยิบยกคำพูดของเชอร์ชิลมาใช้ ถึงการป้องกันประเทศตนเองจากผู้รุกรานรัสเซียว่าตน “จะสู้” ไม่ว่าจะในแห่งหนใด
นอกจากนี้ จากการพูดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับสมาชิกรัฐสภาสหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรระบุว่า ตนพร้อมจะประกาศรายละเอียดการมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมทางด้านการทหารกับยูเครนอีกกว่า 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท) โดยสำนักนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรระบุว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมมอบอุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเรดาร์ต่อต้าน อุปกรณ์ส่งสัญญาณรบกวน GPS และอุปกรณ์ช่วยการมองเห็นในตอนกลางคืน ให้กับทางยูเครนเพิ่ม
สหราชอาณาจักรยังจัดหาโดรนทางอากาศสำหรับการบรรทุกของหนัก ซึ่งสามารถขนส่งเสบียงไปยังกองกำลังยูเครนที่แยกตัวออกมาได้ และสำนักนายกรัญมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าวอีกว่า สหราชอาณาจักรจะส่ง Toyota Land Cruisers รุ่นพิเศษอีกนับสิบคันให้แก่ยูเครน เพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่พลเรือนในยูเครนตะวันออก ซึ่งถูกกองกำลังของรัสเซียล้อมเอาไว้อยู่ นอกจากนี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักรคาดว่าในเวลาอันใกล้นี้ ตนจะสามารถมอบขีปนาวุธเจาะเกราะให้แก่ยูเครนได้อีก
จอห์นสันจะกลายเป็นผู้นำโลกคนแรกที่ขึ้นพูดในรัฐสภายูเครน นับตั้งแต่สงครามเกิดขึ้นใน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนักวิจารณ์จากฝั่งสหราชอาณาจักรมองว่า จอห์นสันพยายามมุ่งความสนใจของตนไปกับบทบาทบนเวทีโลก ท่ามกลางสถานการณ์ภาวะผู้นำของเขาที่กำลังถูกตั้งคำถามอยู่ภายในประเทศ หลังจากกรณีการถูกปรับจากการละเมิดกฎคุมการระบาดโควิด-19 เมื่อปีที่ผ่าน จนก่อให้เกิดกระแสเรียกร้องให้จอห์นสันรับผิดชอบต่อความผิดพลาดดังกล่าวมากกว่าการขอโทษ แต่คือการลาออกจากตำแหน่ง
“นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของยูเครน หน้าบทครั้งสำคัญในเรื่องราวชาติของคุณที่จะถูกจดจำและเล่าถึงในผู้คนอีกอีกหลายรุ่นที่กำลังจะมาถึง” จอห์นสันกล่าวถึงวีรกรรมการปกป้องตนเองของชาวยูเครนจากรัสเซีย “ลูกและหลานของคุณจะกล่าวว่ายูเครนได้สอนให้โลกเรียนรู้ว่า กองกำลังอันโหดร้ายของผู้รุกรานไม่สามารถทำอะไรต่อพลังทางศีลธรรมของประชาชนผู้ปราถนาถึงการเป็นเสรีได้”
ที่มา: