วันที่ 13 ม.ค. 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ. ป้องกันการทรมานและการอุ้มหายฯ โดยระบุว่า ทางตำรวจไม่ได้ขัดค้าน และยินดีที่จะทำ พ.ร.บ. อุ้มหายฯ เพียงแต่กระบวนการดังกล่าวให้เวลาน้อยมาก กับการมีผลบังคับใช้ ซึ่งเราเกรงว่าจะเกิดความเสียหายในบางประเด็น เพราะผู้จับกุมมีหลายหน่วย และติดที่เรื่องของอุปกรณ์

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุอีกว่า เนื่องจากในกฎหมาย กำหนดไว้ว่าในการจับกุมผู้ต้องหา จะต้องมีการบันทึกภาพ และเสียง ทำให้เราต้องรีบดำเนินการ ทั้งการติดกล้องที่รถควบคุมผู้ต้องหา ห้องร้อยเวร และห้องต่างๆ รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้างในระบบราชการ ไม่ใช่ว่าวันเดียวแล้วจะได้ มันจะต้องมีขั้นตอนของการของบประมาณ ซึ่งก็ได้ขอไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่การแจ้งขั้นตอนต่อหน่วยงานต่างๆ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน หากทำโดยเร่งด่วนก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้

ทั้งนี้ ในฐานะของผู้ปฎิบัติ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ขอเสนอขยายเวลาเพียงเท่านั้น ไม่ได้ต้องการยกเลิกแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการขยายเวลาเพื่อให้กำลังพลมีความพร้อม และได้ทำการซักซ้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผู้กระทำผิดกฎหมายโดยไม่ได้ตั้งใจ และอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจผู้ปฏิบัติด้วย

ส่วนเรื่องกรอบระยะเวลา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เราก็ขอขยายระยะเวลาไป แต่ขอให้อุปกรณ์พร้อม และให้กระทรวงยุติธรรมได้นัดกำลังพลซักซ้อมกันด้วย ซึ่งจะไม่ทันอยู่แล้วเพราะจะบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล ออกมาวิจารณ์ว่าการขยายเวลาซึ่งขัดกับสิ่งที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เคยเข้ามาชี้แจงต่ออนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมที่จะปฎิบัติตามกฎหมายดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ในฐานะหัวหน้าหน่วย ตนจะดูเรื่องแค่เรื่องความพร้อม เพราะกฎหมายออกมา เราไม่ได้อยากจะฝ่าฝืน เพียงแค่ต้องการให้มีความพร้อมเท่านั้นเอง และเกิดเหตุขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ