ไม่พบผลการค้นหา
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ตอบโต้การโจมตีด้วยโดรนที่เกิดขึ้นในกรุงมอสโกเมื่อวันอังคาร (30 พ.ค.) โดยกล่าวหายูเครนว่าพยายามทำให้ชาวรัสเซียหวาดกลัว นอกจากนี้ ปูตินกล่าวว่าพลเรือนตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีนี้ แต่ระบบการป้องกันทางอากาศของรัสเซียสามารถจัดการกับภัยคุกคามได้อย่างน่าพอใจ

กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า มีโดรนอย่างน้อย 8 ลำที่เข้ามาโจมตีกรุงมอสโก และได้สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ทางการยูเครนปฏิเสธความรับผิดชอบในการโจมตีรัสเซีย ทั้งนี้ การโจมตีด้วยโดรนในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่กรุงมอสโกตกเป็นเป้าหมายของการจู่โจมด้วยโดรนหลายตัว นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อ 24 ก.พ. 2565

เซอร์เก โซบยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก กล่าวว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตี โดยโดรนหลายลำถูกยิงสกัดตกในเขตชานเมืองทางตะวันตก ที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียหลายคนอาศัยอยู่

ปูตินให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ของรัสเซียว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการตอบโต้จากการโจมตีของรัสเซีย ต่อกองบัญชาการข่าวกรองทางทหารของยูเครนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยังไม่มีใครสามารถรับรองข้อเท็จจริงได้ว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าวของปูตินเกิดขึ้นหรือไม่

“เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้ ระบอบการปกครองของเคียฟจึงเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป เส้นทางของความพยายามที่จะข่มขู่รัสเซีย ข่มขู่พลเมืองของรัสเซีย และการโจมตีทางอากาศต่ออาคารที่พักอาศัย” ปูตินกล่าว "เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสัญญาณของความเคลื่อนไหวในการก่อการร้าย พวกเขายั่วยุเราให้ตอบโต้ในแนวทางเดียวกัน” ปูตินกล่าวเสริม

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า การมอบการสนับสนุนจากชาติตะวันตกต่อยูเครนเป็นการ "ผลักดันผู้นำยูเครนให้มุ่งไปสู่การก่ออาชญากรรมที่บ้าบิ่นมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการก่อการร้าย" แต่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำจุดยืนของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า พวกเขาไม่สนับสนุนการโจมตีภายในดินแดนรัสเซีย พร้อมระบุเสริมว่าสหรัฐฯ กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีด้วยโดรนในหลายกรณี

การโจมตีในกรุงมอสโกเกิดขึ้น หลังจากการโจมตีด้วยโดรนในชั่วข้ามคืน ณ กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อยหนึ่งคน โดยเจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่าเศษซากที่ตกลงมาจากการยิงสกัดโดรน ส่งผลให้อาคารต่างๆ มีไฟลุกไหม้ ในขณะที่ระบบการป้องกันทางอากาศของยูเครนสกัดกั้นโดรนได้มากกว่า 20 ลำ

ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า โดรนทั้ง 8 ลำที่เล็งเป้าหมายการโจมตีไปยังกรุงมอสโกถูกสกัดกั้น “โดรน 3 ลำถูกกำจัดโดยยุทธการณ์อิเล็กทรอนิกส์ มันสูญเสียการควบคุม และเบี่ยงเบนไปจากเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดรนอีก 5 ลำถูกยิงโดยระบบขีปนาวุธพื้นผิวสู่อากาศ Pantsir-S ในภูมิภาคมอสโก” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ

การโจมตีทางอากาศในกรุงมอสโกครั้งนี้ เกิดขึ้นในย่านที่โดดเด่นที่สุดของเมืองหลวงรัสเซียอย่าง เลนินสกี ปรอสเปกต์ ซึ่งเป็นถนนใหญ่ที่สร้างขึ้นภายใต้ยุคของ โจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำสหภาพโซเวียต โดยชานเมืองทางตะวันตกของกรุงมอสโกนี้ เป็นสถานที่ที่ปูตินพักอาศัย รวมทั้งสมาชิกชนชั้นนำของรัสเซียคนอื่นๆ เช่นกัน

มีไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า ทางการยูเครนไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการโจมตี แต่ยูเครนถูกใจกับการเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคาดการณ์ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอีก ในขณะที่ปูตินกล่าวว่า แม้ระบบการป้องกันทางอากาศของรัสเซียจะตอบสนองต่อการโจมตีได้สำเร็จ แต่รัสเซียยังคงต้องการ "การทำงานอีกเล็กน้อย" และต้องทำให้ระบบการป้องกัน "หนาแน่นมากขึ้น"

วิกตอร์ โซโบเลฟ อดีตนายทหารคนหนึ่งกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Federal Press ว่า การโจมตีดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับชาวเมืองมอสโก เนื่องจากไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ว่าจะมีการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้น โดยโซโบเลฟระบุว่า เรดาร์ของรัสเซียไม่สามารถตรวจจับโดรน และเปิดสัญญาณเตือนการโจมตีทางอากาศได้ เนื่องจากโดรนบินในระดับความสูงที่ต่ำมาก นอกจากนี้ รัสเซียควรสร้างระบบที่สามารถมองเห็นโดรนในระดับความสูงที่ต่ำมากได้ด้วย


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-65751632?fbclid=IwAR20Lk3bQAn5QkNZsDLLqOEw_dkADtDYgW__IG8_yRovmIDqZN4MeBBb3tY