ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 กล่าวระหว่างลงพื้นที่แฟลตดินแดง หลังจากที่ กกต. ประกาศรับรอง ให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการ ว่าขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกตนเข้ามาทำงาน รวมถึงคนที่ไม่ได้เลือก โดยวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปที่ กกต. ในเวลา 11:00 น. เพื่อรับเอกสารยืนยันการรับรองการเป็นผู้ว่าฯ หลังจากนั้นในเวลา 13:00 น. จะเดินทางไปที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อไปดูการเตรียมความพร้อมในการปฎิบัติหน้าที่ ส่วนเมื่อเข้ารับตำแหน่งแล้ว สิ่งที่จะทำเป็นอันดับแรก คือการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และหลังจากนั้นจะเป็นการพบปะพูดคุยกับผู้บริหาร กทม. เพื่อดูนโยบายและปัญหา ว่างานส่วนไหนยังติดขัด พร้อมยืนยันว่าเมื่อได้เข้ามาเป็นผู้ว่าฯ แล้วจะแก้ไขปัญหาที่ยังค้างอยู่ให้เรียบร้อย 

ส่วนในวันพรุ่งนี้จะถือโอกาสเปิดตัวทีมงานรองผู้ว่าฯ และคณะทำงานด้านต่างๆ หลังจากนั้นก็จะเดินหน้าทำงานทันที ในระหว่างที่รอการรับรองจาก กกต. ได้ลงพื้นที่ติดตามปัญหาตามเขตต่างๆ ซึ่งก็ได้เห็นปัญหาที่มีอยู่และได้เห็นความตั้งใจของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีการแบ่งสังกัดพรรค หรือแบ่งฝ่าย หลังจากนี้จะเป็นผู้ว่าที่ไม่มีความขัดแย้ง ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้ และดีใจที่เห็นหลายหน่วยงาน ได้นำนโยบายของตนเองไปปฏิบัติให้สอดคล้องแล้ว หลังจากนี้จะให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าอยู่ ตามนโยบาย 9 ดี 9 ด้าน 

ชัชชาติ กล่าวถึงความในใจวันนี้ว่า ตลอดระยะเวลาสองปีสองปีกว่าที่เดินลงพื้นที่สำรวจปัญหาในกรุงเทพฯ และอีก 52 วันที่ลงสมัครในนามผู้ว่าฯ และอีกแปดวันที่รอการรับรอง จาก กกต. จนถึงวันนี้ถือว่าสิ้นสุดการรอคอย ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปถือเป็นวันที่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่ง แล้วต่อแต่นี้ก็จะมีแต่คำว่า “ทำงานทำงาน และทำงาน” 

ชัชชาติ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ไปยื่นร้องต่อ กกต.คัดค้านไม่ให้รับรองผู้ว่าฯ ตนมองว่าถือเป็นกระบวนการที่ร่วมกันตรวจสอบ ซึ่งขอขอบคุณทั้ง ศรีสุวรรณ และ กกต.รวมถึงคนอื่นที่ช่วยกันตรวจสอบ เพื่อให้การรับตำแหน่งของตนสง่างาม เป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่ได้มีการซูเอี๋ยกัน ส่วนจะมีการดำเนินการฟ้องกลับหรือไม่ต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายก่อน เพราะตนเองไม่ได้รู้รายละเอียด และขอประชาชนอย่าเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เพราะผู้ว่ากรุงเทพมหานครเป็นผู้ที่ดูแลระดับท้องถิ่น

ส่วนการลงพื้นที่ตลอดห้าวันที่ผ่านมา รู้สึกพอใจที่ไม่ว่าจะลงในพื้นที่เขตใด เจ้าหน้าที่แต่ละเขตก็กระตือรือร้น แก้ปัญหาได้ทันที ซึ่งการลงพื้นที่ของตนในแต่ละจุด เป็นการส่งสัญญาณให้ทุกพื้นที่ตื่นตัวในการแก้ปัญหา และเพื่อให้เห็นปัญหานั้นจริง 

ขณะที่บรรยากาศระหว่างลงพื้นที่ มีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก และตะโกนให้กำลังใจจากบนแฟลตซึ่ง ชัชชาติได้โบกมือทักทาย และขอบคุณ ขณะเดียวกันมีนักเรียนมัธยม มายื่นหนังสือเพื่อสะท้อนถึงปัญหาที่นักเรียนใน กทม.พบเจอ ทั้งปัญหาเรื่องเครื่องแบบและทรงผม ซึ่ง ชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ เชื่อว่าสามารถพูดคุยกันได้ด้วยเหตุผล เพราะการเรียนการศึกษาสำคัญกว่า และเรื่องนี้ยังครอบคลุมมิติอื่นๆ นอกเหนือจากสิทธิเสรีภาพด้วย