รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมแผนแก้ไขกฎหมายใหม่ ห้ามผู้ที่เคยอยู่ในสถานะลี้ภัย หรือพยายามลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย ไม่ให้เข้าออสเตรเลียอีกตลอดชีวิต
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย มัลคอล์ม เทิร์นบูล ได้เตรียมยื่นเสนอแก้ไขกฎหมายผู้อพยพ ในการประชุมรัฐสภาสัปดาห์หน้า โดยกฎหมายดังกล่าวจะสั่งห้ามเข้าประเทศออสเตรเลียตลอดชีวิต สำหรับผู้ที่เคยพยายามลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย และมีประวัติในการส่งตัวกลับประเทศ และมีข้อมูลบันทึกไว้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2013 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน
โดยออสเตรเลียดำเนินการนโยบายปกป้องพรมแดน ด้วยการผลักดันผู้อพยพที่พยายามลักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายด้วยเส้นทางทางทะเล ซึ่งถ้าหากตรวจพบว่าเคยมีประวัติในฐานะผู้ลี้ภัย แม้ภายหลังจะถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทางและยื่นขอวีซ่าตามขั้นตอนปกติ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักท่องเที่ยว ติดต่อธุรกิจ หรือคู่สมรส ก็จะถูกจับกุมและส่งตัวไปยังศูนย์พักพิงผู้อพยพที่เกาะมานัสของปาปัวนิวกินี และประเทศนาอูรู ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาล
แต่อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวนี้จะยกเว้นให้แก่ผู้ที่มีฐานะเป็นผู้ลี้ภัยที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่ถูกส่งตัวไปยังศูนย์พักพิง เนื่องจากพวกเขายังไม่บรรลุนิติภาวะ และถ้าหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านจะส่งผลกระทบต่อผู้ลี้ภัยราว 3,000 คน ที่ยังอยู่ในศูนย์พักพิงบนเกาะมานัส นาอูรู รวมถึงศูนย์การแพทย์บนแผ่นดินออสเตรเลียด้วย
ในขณะเดียวกันแม้กฎหมายดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการลดปัญหานายหน้าที่พาคนลักลอบเข้าเมือง แต่นายเดวิด บานน์ ทนายความด้านสิทธิของผู้ลี้ภัย กล่าวว่า ออสเตรเลียควรให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัยมากกว่านี้ เพราะสิ่งที่ออสเตรเลียกำลังจะทำดูเป็นการละทิ้งปัญหาและความรับผิดชอบผู้ลี้ภัย ซึ่งตอนนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก