ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - 'อาหารห่อกลับ' ปัจจัยเร่งโรคอ้วนในเด็กอังกฤษ - Short Clip
World Trend - ลูกจ้างอังกฤษเกินครึ่งเชื่อ 'เจ้านายคอยแอบดู' - Short Clip
World Trend - อาดิดาสกับการเน้นครองใจวัยรุ่นจีน - Short Clip
World Trend - เนเธอร์แลนด์ลงทุนเพิ่มให้คนใช้จักรยานมากขึ้น - Short Clip
World Trend - ผลสำรวจชี้ คนรุ่นใหม่มองชีวิตในแง่ร้าย - Short Clip
World Trend - 'อากาศพิษ' ทำเด็กเกิดใหม่อายุขัยสั้นลง 20 เดือน - Short Clip
World Trend - จีนไม่อนุญาตดิสนีย์ฉาย 'คริสโตเฟอร์ โรบิน' - Short Clip
World Trend - ไฟถนน LED เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็ง - Short Clip
World Trend - Uber เปิดตัวบริการช่วยผู้ป่วยเดินทางพบแพทย์ - Short Clip
World Trend - 'ชุดเช่า' เทรนด์ธุรกิจแฟชั่นที่ยังไปได้อีกไกล - Short Clip
World Trend - ​นอนนานเกินไปเสี่ยงโรคหัวใจ-เสียชีวิต - Short Clip
World Trend - ชาวอเมริกันเสพข่าวโซเชียลมากกว่าสิ่งพิมพ์เป็นครั้งแรก - Short Clip
World Trend - มลพิษทางอากาศส่งผลร้ายต่อระดับสติปัญญามนุษย์ - Short Clip
World Trend - นักวิจัยคิดวิธีชาร์จมือถือด้วยการยิงเลเซอร์ - Short Clip
World Trend - เจ้านาย 1 ใน 3 เลี่ยงจ้างผู้หญิงที่กำลังสร้างครอบครัว - Short Clip
World Trend - กูเกิลแมปส์อินเดียแจ้งส่วนลดร้านอาหาร - Short Clip
World Trend - 'จำกัดการกินเบอร์เกอร์' ช่วยโลกได้! - Short Clip
World Trend - ชาวอังกฤษนิยมรถสีดำ เพราะไม่ต้องล้างบ่อย - Short Clip
World Trend - 'นักวิชาการผิวสี' ยังขาดโอกาสในวิชาชีพ - Short Clip
World Trend - ประชากรญี่ปุ่นลดต่อเนื่อง 10 ปี - Short Clip
World Trend - เด็กดูจอนานส่งผลให้สมองไม่พัฒนา - Short Clip
Oct 3, 2018 16:31

นักวิจัยแคนาดาพบว่า การที่เด็กมี Screen Time หรือเวลาในการดูจอ ทั้งมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือโทรทัศน์มากเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้การพัฒนาทางการเรียนรู้ตกต่ำลง

เจเรมี วอลช์ นักวิจัยจากสถาบันวิจัยโรงพยาบาลเด็กอีสเทิร์น ออนแทริโอ ในแคนาดา ระบุว่ามีเด็กในสหรัฐฯ เพียง 1 ใน 20 คนเท่านั้น ที่นอน ออกกำลัง และมี Screen Time หรือระยะเวลาการดูจอที่เหมาะสมตามคำแนะนำ โดยมีเด็กเกือบ 1 ใน 3 ที่ทำทั้งสามกิจกรรมในปริมาณที่ไม่เหมาะสม และกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ทำกิจกรรมในปริมาณเหมาะสมแค่ 1 อย่าง เช่น นอนพอ แต่ออกกำลังน้อย และดูจอมาก ขณะที่ มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ที่ทำเหมาะสมทุกอย่าง นอกจากนี้ โดยเฉลี่ย เด็กอายุ 8 - 11 ปี ยังใช้เวลาดูจอถึง 3.6 ชั่วโมงต่อวัน เกินจากที่แนะนำให้ดูวันละ 2 ชั่วโมงถึงเกือบเท่าตัว

ทั้งนี้ วอลช์และทีมงานรวบรวมข้อมูลเด็ก 4,520 คนจากทั่วสหรัฐฯ โดยทดสอบการรับรู้ 6 อย่าง ประกอบกับข้อมูลรายได้ครัวเรือนของเด็กแต่ละคน และปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็ก แล้วนำมาเทียบกับคำแนะนำในประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศแรกที่เสนอให้มีการจำกัด Screen Time ของเด็ก

วอลช์ระบุว่า การดูจอนานเกินไป ประกอบกับการนอนที่น้อยกว่าปกติ ทำให้การพัฒนาทักษะการรับรู้ลดลง ทั้งการใช้ภาษา ความจำ และการทำกิจกรรมหนึ่ง ๆ จนเสร็จสิ้น เท่ากับว่าเด็กอาจพูดได้ช้า หรือมีภาวะสมาธิสั้นได้นั่นเอง งานวิจัยดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet Child & Adolescent Health

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog