ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - ​'มลภาวะแสง' ทำลายพื้นที่ชีวภาพกว่าครึ่งโลก - Short Clip
World Trend - ​นอนนานเกินไปเสี่ยงโรคหัวใจ-เสียชีวิต - Short Clip
World Trend - ​วิจัยชี้ แมลงสาบเริ่มมีภูมิคุ้มกันยาฆ่าแมลง - Short Clip
World Trend - วิจัยชี้ การพนันเปลี่ยนโครงสร้างสมอง - Short Clip
World Trend - เทรนด์การกินทำให้คนทำอาหารหลายรอบในหนึ่งมื้อ - Short Clip
World Trend - วิจัยชี้ ภาษีโซดาช่วยลดการบริโภค - Short Clip
World Trend - 'ยอดรีช' เฟซบุ๊กตกกระทบการตลาดทั่วโลก - Short Clip
World Trend - แอปเปิลสั่งลดการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่ลง 20 % - Short Clip
World Trend - นักวิจัยแนะใช้โซเชียลมีเดียวันละ 30 นาที - Short Clip
World Trend - ทั่วโลกต้องเร่งรับมือ 'ภาวะโลกร้อน' ก่อนจะสายเกินแก้ - Short Clip
World Trend - 'อาหารห่อกลับ' ปัจจัยเร่งโรคอ้วนในเด็กอังกฤษ - Short Clip
World Trend - เด็กไทยเสี่ยงภัยออนไลน์เกินค่าเฉลี่ยโลก - Short Clip
World Trend - วิจัยชี้ สูบบุหรี่ไฟฟ้าทำร้าย DNA - Short Clip
World Trend - พบ 1 ใน 10 เด็กเล็กในเกาหลีใช้สมาร์ตโฟน - Short Clip
World Trend - วิจัยชี้ หุ่นยนต์อาจเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กในแง่ลบ - Short Clip
World Trend - 'อาหารไร้กลูเตน' เพิ่มความเสี่ยงเป็นเบาหวาน - Short Clip
World Trend - สหรัฐฯ ผลิตขยะมากที่สุดในโลก - Short Clip
World Trend - จีนเตรียมเปิดอุทยานแห่งชาติแพนด้ายักษ์ - Short Clip
World Trend - 'ฝุ่นละเอียด' คำค้นอันดับ 1 ครึ่งปีแรกของเกาหลี - Short Clip
World Trend - วิจัยชี้ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแรกไม่ต้องทำคีโม - Short Clip
World Trend - วิจัยชี้ ติดกีฬามีความสุขกว่าติดมือถือ - Short Clip
Jan 25, 2018 10:50

งานวิจัยล่าสุดจากสหรัฐฯ ชี้ว่า วัยรุ่นที่ติดมือถือ ทั้งโซเชียล เกม และแชต จะไม่มีความสุขเท่ากลุ่มที่เล่นกีฬาและออกไปพบปะผู้คน

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยซานดิเอโก สเตต ในสหรัฐฯ ที่รวบรวมข้อมูลจากนักเรียนเกรด 8 เกรด 10 และเกรด 12 หรือมัธยมศึกษาปีที่ 2, 4 และ 6 จำนวนกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ มาประมวลผลพบว่า เด็กกลุ่มที่ใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดีย เกม แชต และวิดีโอแชต นั้นไม่มีความสุขเท่ากับเด็กกลุ่มที่เล่นกีฬา ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน

จีน เอ็ม. ทเวนจ์ นักจิตวิทยาที่นำทีมวิจัยครั้งนี้ ระบุว่า เธอเชื่อมาตลอดว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากเด็กที่ไม่มีความสุขในโลกความเป็นจริง จนพยายามหลีกหนีโดยการเข้าหาโซเชียลมีเดีย หรือเล่นมือถือ แต่การหมกมุ่นกับคอนเทนต์ในมือถือต่างหากที่ทำให้เด็กไม่มีความสุข โดยเธอได้เก็บข้อมูลพฤติกรรมเด็กและวัยรุ่นมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 90 และพบว่าปัญหาการใช้มือถือที่สัมพันธ์กับการไม่มีความสุขกับชีวิตเพิ่งเกิดขึ้นหลังจากปี 2012

นอกจากนี้ งานวิจัยชิ้นเก่าของเธอยังระบุไว้ด้วยว่า เด็กที่ใช้เวลากับมือถืออย่างน้อย 4 ถึง 5 ชั่วโมงต่อวัน จะเพิ่มปัจจัยเสี่ยงฆ่าตัวตายขึ้นถึง 71 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่เกี่ยวกับคอนเทนต์ที่ดู นั่นคือ ไม่ว่าจะดูวิดีโอแมว หรือสิ่งที่ดูไม่มีโทษใด ๆ เลยก็ตาม อัตราความเสี่ยงนี้จะยังมีเท่าเดิม ซึ่งเธอแนะนำว่า เด็กและวัยรุ่นไม่ควรใช้เวลากับมือถือมากไปกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน และควรหมั่นออกกำลังกาย และพบปะเพื่อนฝูงแบบนัดเจอกันจริง ๆ อย่างสม่ำเสมอ

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog