หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคอีก 10 ปี ก็เกิดกระแสการแสดงจุดยืนของนิสัตและนักศึกษาในหลายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ นอกจากนี้ก็มีการสร้างแฮชแท็กแสดงตัวตน แสดงจุดยืนเคียงข้างประชาธิปไตยในหลายมหาวิทยาลัย
ล่าสุด 'ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์' ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ต่อกระแสเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยได้รับคำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขามองเห็นถึงปัญหาในเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ และชี้ว่าที่คนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ในครั้งนี้เพราะพวกเขาไม่เห้นความเป็นธรรม และ "ไม่เห็นอนาคต" ของตัวเองกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่
'อมรินทร์ คุณวงศ์' ชี้ว่า ตนให้ความสนใจประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ค่อนข้างมาก คือ ตามฟังอภิปายตั้งแต่ช่วงบ่าย ก่อนจะสลับไปเข้าเรียนและกลับมาติดตามต่อผ่านการเผยแพร่ภาพสดตามเพจเฟซบุ๊กต่างๆ พร้อมชี้ว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ถือเป็น ส.ส.ที่อธิบายเรื่องเศรษฐกิจได้ชัดเจนเข้าใจง่าย
ขณะที่ 'พุฒิพงศ์ เดชพร' เสริมว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ ก็อภิปรายเรื่องเศรษฐกิจได้เห็นภาพเช่นเดียวกัน พร้อมเสนอว่า หากรัฐบาลจะเริ่มแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ควรจะกลับไปแก้ที่ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการแก้ปัญหาผลประโยชน์ของมหาเศรษฐี
ด้าน 'กฤษชัย ฉัตรฉายแสง' กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันสิ่งที่หวังอยากจะให้รัฐบาลทำตอนนี้คือ "การลาออก" เพราะหากยังอยู่บริหารประเทศต่อไปก็ไม่อาจจะแก้ไขปัญหาได้
"อยากให้ออกเลย เปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่ มันไม่มีประชาธิปไตย มีแต่เผด็จการ" กฤษชัย กล่าว
ทั้งนี้ กฤษชัย ย้ำว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้มาก โดยมีจุดยืนที่การเรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรม
ในทำนองเดียวกัน 'พีรญา อิ่มเฮง' ชี้ว่า ที่ผ่านมาสิ่งเดียวที่รัฐบาลเก่งคือการพูด แต่ไม่สามารถทำอะไรได้จริงเป็นรูปธรรม หรือแก้ปัญหาของประชาชนได้ เพราะยังมีข่าวเรื่องเศราฐกิจย่ำแย่ การปลดคนงาน รวมถึงการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจอยู่ตลอด
พีรญา ทิ้งท้ายว่า "อยากให้มองมาที่นักเรียน ถ้าเขายังทำแบบนี้ต่อไป อนาคตไม่เหลือแน่ๆ"
การชุมนุมที่เกิดขึ้นในหลายมหาวิทยาลัยรวมถึงการลงพื้นที่สำรวจในครั้งนี้อาจไม่สามารถสะท้อนแนวความคิดของนักเรียนนักศึกษาในประเทศได้ทั้งหมด แต่ก็ได้สะท้อนแล้วว่านักเรียนนักศึกษาส่วนหนึ่งก็ไม่ได้ตื่นตัวแค่ในโลกออนไลน์อย่างที่มีใครเคยกล่าวไว้เท่านั้น และพวกเขาเองก็พร้อมจะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้อง "อนาคต" ที่พวกเขารู้สึกว่าโดยช่วงชิงไปเช่นเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;