พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค ว่า​ จะมีการประชุมร่วมกันหลายสถานที่นะจ๊ะ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการเจรจาข้อตกลงต่างๆ ขณะเดียวกันจะมีการประชุมอาเซียนด้วยในช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้ และหลังจากนั้นจะเป็นการประชุมเอเปค ดังนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมการมากพอสมควร

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังได้เชิญชวนประชาชน ให้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค โดยในวันนี้ได้สั่งการให้มีการประชาสัมพันธ์ไปแล้ว ถือว่าเราเป็นเจ้าบ้านจะต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี บ้านเมืองต้องมีเสถียรภาพและสงบสุข เพราะอยู่ในช่วงของการมาเยี่ยมเยือนของผู้นำกว่า 20 ประเทศ ส่วนหากประเทศใดจะจัดผู้แทนมาประชุมแทน ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละประเทศ ซึ่งก็ถือเป็นเกียรติอย่างสูง ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันจากหลายประเทศเกือบทั้งหมดแล้ว ส่วนประเทศใหญ่ๆอยู่ระหว่างการประสาน

เมื่อถามต่อถึงกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เสนอแคมเปญ "หมดที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม" และกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ออกมาระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีข้อดีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินขึ้นห้องทำงานภายในตึกไทยคู่ฟ้าทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร มีสีหน้าที่ค่อนข้างเรียบเฉย ซึ่งคาดว่าเพื่อหลีกเลี่ยงและสงวนท่าทีในการตอบคำถามประเด็นทางการเมือง และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประวิตร เปลี่ยนมาใช้ประตูทางออกด้านข้างตึกสันติไมตรี หลังประชุม ครม.ซึ่งไม่เคยใช้เส้นทางดังกล่าวมาก่อน