แท็กซี่ญี่ปุ่นก็เจอกับการแข่งขันในธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทที่ให้บริการแท็กซี่ต่างๆต้องเร่งพัฒนาการให้บริการเพื่อดึงดูดลูกค้า ล่าสุดก็มีการคิดค้นอัตราคำนวนค่าโดยสารที่จะช่วยผู้โดยสารประหยัดค่าเดินทางได้มากขึ้น
แท็กซ่ที่ญี่ปุ่นมีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพการให้บริการที่สุภาพเรียบร้อยและความปลอดภัยต่อผู้โดยสาร แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของค่าบริการที่ค่อนข้างแพง และการจราจรที่ติดขัดในเมืองก็ทำให้ผู้โดยสารคาดคะเนค่าโดยสารค่อนข้างลำบาก ทำให้ช่วงหลังๆมีคนใช้บริการแท็กซี่น้อยลง และหันไปใช้บริการโดยสารรถสาธารณะประเภทอื่นๆแทน เรื่องนี้จึงทำให้กระทรวงที่ดิน ระบบสาธารณูปโภค คมนาคมและการท่องเที่ยว ของญี่ปุ่น ร่วมมือกับบริษัทที่ให้บริการรถแท็กซี่ 4 แห่งในญี่ปุ่น เปิดแอพพลิเคชันเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ โดยที่จะมีการคำนวนระยะทาง เวลาที่คาดว่าจะใช้ในการเดินทาง รวมทั้งค่าบริการออกมาให้เรียบร้อย ซึ่งค่าบริการที่ปรากฎจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าการจราจรจะติดขัด หรือต้องใช้เวลาในการเดินทางนานแค่ไหนก็ตาม ผู้โดยสารก็จะจ่ายค่าโดยสารเท่าเดิม
อย่างในภาพเป็นตัวอย่างการคำนวนค่าโดยสารจากสถานีรถไฟโตเกียว ไปที่หอคอยโตเกียว ซึ่งแอพพลิเคชั่นก็คำนวนเส้นทางการเดินทางที่สั้นที่สุด ว่ามีระยะทาง 6.5 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 2,730 เยน บวกค่าให้บริการ 410 เยน รวมเป็น 3,140 เยน หรือประมาณ 950 บาท ซึ่งไม่ว่าการจราจรจะติดขัดแค่ไหน ผู้โดยสารก็จะไม่ต้องจ่ายเงินเกิน 3,140 เยน แม้แต่เยนเดียว
แอพพลิเคชั่นนี้เพิ่งเปิดทดสอบให้ใช้บริการเมื่อวานนี้เป็นวันแรก ในกรุงโตเกียวและเมืองรอบๆ ซึ่งจะทดสอบการให้บริการจนถึงวันที่ 6 ตุลาคม และถ้าผลตอบรับออกมาดี ก็จะขยายการให้บริการไปสู่เมืองอื่นๆ แต่การให้บริการค่าโดยสารที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ก็มีข้อแม้ว่าต้องเป็นการใช้บริการโดยสารรถแท็กซี่ที่มีค่าบริการขั้นต่ำ 3,000 เยน หรือประมาณ 900 บาท ซึ่งก็มีเป้าหมายอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางระยะไกล ซึ่งคาดเดาการจราจรได้ค่อนข้างยาก จะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย หรือผู้ที่เดินทางด้วยกันหลายคนที่ต้องการคำนวนว่าระหว่างการซื้อตั๋วรถไฟคนละใบ หรือแชร์ค่าแท็กซี่ด้วยกัน อย่างไหนจะราคาถูกกว่า
แท็กซี่ของญี่ปุ่นก็พยายามที่จะปรับตัวเพื่อรับมือต่อการแข่งขันทางธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการปรับค่าโดยสารเพื่อช่วยให้ผู้โดยสารประหยัดค่าโดยสารได้มากขึ้น เช่นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กลุ่มแท็กซี่ในโตเกียวก็เพิ่งเปลี่ยนอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นให้ถูกลง จากเดิมที่ค่าโดยสารจะเริ่มที่ 2 กิโลเมตรแรก ที่ 730 เยน ก็เปลี่ยนมาเป็นเริ่มที่ 1 กิโลเมตรแรกที่ 410 เยน เพื่อช่วยผู้โดยสารที่เดินทางระยะสั้นให้จ่ายค่าโดยสารน้อยลง ซึ่งถ้าผู้โดยสารเดินทางกันเป็นกลุ่มสามคนขึ้นไปแล้วหารค่าแท็กซี่ ก็จะถูกกว่าการขึ้นรถไฟหรือนั่งรถบัส และยังมีความสะดวกสบายกว่ามาก
นอกจากนี้แล้ว บริษัทแท็กซี่ต่างๆในญี่ปุ่นก็แข่งขันกันเพิ่มระดับการให้บริการเพื่อเพิ่มความประทับใจให้กับผู้โดยสารมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแจกผ้าเย็น, การติด GPS, ที่เสียบชาร์จมือถือ, ระบบประตูเปิดปิดอัตโนมัติ, ความสะอาด, เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทแท็กซีมิยาโกะในกรุงเกียวโต ก็เพิ่งเริ่มนโยบาย "แท็กซีเงียบสงบ" ห้ามไม่ให้คนขับรถแท็กซี่ชวนผู้โดยสารคุย เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้โดยสารขณะเดินทาง โดยคนขับจะคุยกับผู้โดยสารได้ก็ต่อเมื่อผู้โดยสารเป็นฝ่ายชวนคุยก่อนเท่านั้น
การพัฒนาการให้บริการและใส่ใจผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ทำให้รถแท็กซี่ในญี่ปุ่น แม้จะมีราคาแพง แต่ก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้โดยสารในเรื่องของความสะดวกสบายและความปลอดภัย และยังคงแข่งขันในธุรกิจรถโดยสารสาธารณะได้