อาลีบาบาเดินหน้าขับเคลื่อนการใช้นวัตกรรมจดจำใบหน้าเพื่อการจ่ายเงินออนไลน์ ด้วยการเปิดบริการ "ยิ้มเพื่อจ่ายเงิน" ในเคเอฟซีของจีน
บริการ "Smile to Pay" หรือการ "ยิ้มเพื่อจ่ายเงิน" ปัจจุบันยังไม่สามารถใช้ได้ในเคเอฟซีทุกสาขาของจีน แต่เป็นการเปิดบริการนำร่องเพื่อทดลองระบบในสาขาที่นครหางโจวแห่งเดียวเท่านั้น โดย Ant Financial บริษัทลูกของอาลีบาบา เจ้าของนวัตกรรมนี้ อธิบายว่าระบบยิ้มเพื่อจ่ายเงิน จะใช้เวลา 1-2 วินาทีเพื่อสแกนหน้าของผู้ใช้บริการด้วยกล้องสามมิติ และประมวลผลด้วยระบบอัลกอริธึมพิเศษเพื่อยืนยันอัตลักษณ์ของเจ้าของใบหน้า นอกจากนี้ผู้ใช้บริการยังต้องใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือของตนเองเพื่อยืนยันอัตลักษณ์อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันการปลอมแปลงหรือแอบอ้างใช้บริการด้วย
ระบบจดจำใบหน้าเพื่อช่วยในการใช้บริการจ่ายเงินแบบแคชเลสของอาลีบาบา เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่เมื่อปี 2015 โดยแจ็ค หม่า เป็นผู้สาธิตวิธีการใช้ด้วยตัวเอง แต่จากนั้นก้มีการพัฒนาปรับปรุงระบบให้แม่นยำยิ่งขึ้น จนนำมาสู่การใช้จริงในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งทาง Ant Financial ยอมรับว่าการนำนวัตกรรมนี้มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพในกิจกรรมที่ต้องการความปลอดภัยสูงอย่างการจ่ายเงินออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องทำให้ระบบแยกได้เมื่อมีการใช้รูปถ่ายคนมาแทนหน้าจริง หรือมีความพยายามแต่งหน้าตาปลอมเป็นคนอื่น ระบบจึงต้องมีวิธีตรวจสอบว่าหน้าที่ผ่านการสแกนเป็นหน้าคนจริงๆไม่ใช่วีดีโอ หรือรูปถ่าย
นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจว่าการสแกนใบหน้าจะใช้ได้ผลไม่ว่าผู้ใช้จะแต่งหน้า ทำผม หรือใส่แว่นแบบไหน Ant Financial ยังสาธิตประสิทธิภาพของระบบโดยให้ผู้หญิงคนหนึ่งทดลองแต่งหน้าหลากหลายรูปแบบ หรือแม้แต่ใส่วิกผม เพื่อพิสูจน์ว่าระบบสามารถจดจำหน้าเธอได้อย่างถูกต้องไม่มีปัญหาใดๆ
นอกจากนวัตกรรมที่มีความซับซ้อน การเลือกเปิดให้บริการ "ยิ้มเพื่อจ่ายเงิน" ครั้งแรกของอาลีบาบาในร้านเคเอฟซี ก็เป็นกลยุทธที่น่าสนใจ โดยเคเอฟซีสาขาดังกล่าวในนครหางโจว เป็นเคเอฟซีสาขาพรีเมียมที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในชื่อ K Pro ถือเป็นสิ่งใหม่สำหรับสังคมจีนเช่นเดียวกัน โดย K Pro จะเสิร์ฟอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีเมนูหลากหลาย รวมถึงใช้วัตถุดิบคุณภาพดีกว่าเคเอฟซีปกติ และแน่นอนว่ามาในราคาที่แพงกว่าด้วย
การเปิดตัว Smile to Pay ใน K Pro จึงเป็นการตอกย้ำจุดยืนของอาลีบาบา ที่จับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ ชนชั้นกลางในเมือง ที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการความสะดวกสบายเทียบเท่ากับประเทศในตะวันตก ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้แม้จะยังไม่ได้เป็นคนส่วนใหญ่ของสังคมจีน แต่ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกัน ภารกิจหลักของอาลีบาบาอีกประการ ก็คือการเจาะกลุ่มผู้บริโภคหลักในเขชนบทของจีน ให้เข้าถึงการซื้อสินค้าออนไลน์และการใช้จ่ายแบบแคชเลส เนื่องจากฐานผู้บริโภคกลุ่มนี้มีขนาดใหญ่มากและยังเปิดกว้างต่อธุรกิจ
