โจนาธาน วิลเลียมส์ เจ้าของบริษัทเพมโบรคเชอร์ บีช ฟู้ด ผู้ขายสินค้าจากทะเล โดยมีสาหร่ายเป็นสินค้าหลัก ได้ระบุว่า แหล่งสาหร่ายทะเลที่สำคัญตอนนี้คือบริเวณชายฝั่งทางตะวันตก ที่เมืองเพมโบรคเชอร์ ประเทศเวลส์ ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่ต้องการในท้องตลาดอย่างมาก เนื่องจากบริษัทเอกชนหลายแห่งต้องการนำสาหร่ายไปเพิ่มคุณค่าทางสารอาหาร ทดแทนปริมาณเกลือ โดยสาหร่ายยังอุดมไปด้วยวิตามิน /เกลือแร่/ โปรตีน และกรดไขมันจำเป็น จึงทำให้สาหร่ายทะเลขึ้นแท่นเป็นสินค้ายอดนิยม หรือ Superfood บนชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ต และเป็นเทรนด์อาหารที่น่าสนใจมาจนถึงตอนนี้
ปัจจุบันประชากรโลกมีอยู่ราว 7 พัน 3 ร้อยล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 9 พัน 8 ร้อยล้านคนในปี 2050 สวนทางกับทรัพยากรอาหารที่ลดลง ซึ่งผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 90 ของปลาในโลกที่มีอยู่ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว และเราสูญเสียดินที่อุดมสมบูรณ์ไปมากถึง 2 หมื่น 4 พันล้านตันต่อปีจากการเลี้ยงสัตว์
ด้านสถาบัน Science Advice for Policy from European Academies หรือ SAPEA เปิดเผยรายงาน Food from the Oceans ที่ระบุว่า มนุษย์จำเป็นต้องหาแหล่งอาหารใหม่เพื่อเลี้ยงดูประชากรโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และสาหร่ายทะเลคือคำตอบ เนื่องจาก สาหร่ายทะเลต้องการแค่แสงแดด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ และน้ำ ในการเจริญเติบโต เมื่อเปรียบเทียบกับการเลี้ยงแซลมอลที่ต้องกินปลาตัวเล็ก จะเห็นว่าสาหร่ายใช้ต้นทุนถูกกว่า และเป็นต้นทุนฟรีที่ได้จากในมหาสมุทร
อย่างไรก็ตาม กรรมวิธีการเก็บสาหร่ายจากทะเลค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร นั่นคือ ต้องเก็บมาตากแห้ง และล้างน้ำหลายรอบเพื่อกำจัดกรวดทราย จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการสังเคราะห์แสงที่ใช้เวลา 14 ชั่วโมง แต่ในปัจจุบันแหล่งเพาะสาหร่ายในโลกมีมากขึ้น ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย โดยในปี 2014 ประเทศจีนผลิตสาหร่ายทะเลที่เลี้ยงได้ 12.8 ล้านตัน และในปัจจุบันมีพื้นที่กว่า 500 ตารางกิโลเมตรของทะเลเหลืองในภูมิภาคเอเชียก็พัฒนาเป็นฟาร์มสาหร่ายทะเล
นอกจากนี้ สาหร่ายยังไม่ได้เป็นแค่อาหารทดแทนเพียงอย่างเดียว แต่สาหร่ายยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้มากอีกด้วย โดยงานวิจัยที่นำโดย Antoine De Ramon N'Yeurt จากมหาวิทยาลัยเซาต์แปซิฟิก ระบุว่าในปี 2012 ฟาร์มสาหร่ายจะจับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 19 กิกะตันต่อปี ซึ่งปัจจุบันมนุษย์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 37 กิกะตันต่อปี
อย่างไรก็ตาม บางส่วนยังกังวลว่าการบริโภคสาหร่าย อาจทำให้ร่างกายได้รับโลหะหนักเช่น ตะกั่วและแคดเมียม ที่แฝงตัวอยู่ในทะเล ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องหาแนวทางการแก้ไขต่อไป
