ผลการศึกษาชี้ว่า บัญชีผู้ใช้อัตโนมัติ หรือ ‘บอต (bot)’ ครองพื้นที่ 2 ใน 3 ของทวิตเตอร์ และมีส่วนในการกระจายข้อมูลต่าง ๆ จนทำให้ผู้ใช้งานทวิตเตอร์สับสนกับข้อมูลที่ได้รับ
สำนักวิจัยพิว (Pew Research Center) รายงานผลการศึกษาว่า ‘บอต’ ซึ่งเป็นโปรแกรมโต้ตอบกับผู้ใช้แบบอัตโนมัติ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการสับสนทางข้อมูลบนทวิตเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการรับข่าวสารทั่วไป หรือข่าวกีฬา บันเทิง และประเด็นอื่น ๆ โดยนักวิจัยยังพบว่า ทวีตทั้งหมดที่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ชื่อดังนั้น มีทวีตที่แชร์โดยบอตมากถึง 66 เปอร์เซ็นต์
‘บอต’ ได้รับความสนใจไปทั่วโลกจากการที่รัสเซียพยายามใช้โซเชียลมีเดียปลุกปั่นการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปี 2016 แต่ในการศึกษานี้ไม่มีการแบ่งแยกว่าบอตไหนดีหรือเลว หรือมีมุมมองทางการเมืองแบบใด
โดยนโยบายของทวิตเตอร์ที่อัปเดตล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้อนุญาตให้ใช้งานบอตได้ แต่ต้องมีขอบเขต นั่นคือต้องเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ หรือใช้ตอบข้อความอัตโนมัติในการรณรงค์เชิงสร้างสรรค์เท่านั้น ซึ่งทวิตเตอร์ได้ออกกฎห้ามบอตโพสต์ถึงประเด็นที่กำลังติดเทรนดิ้งอยู่ในขณะนั้น เพื่อป้องกันการโพสต์ประเด็นอื่นแอบแฝง นอกจากนั้น ทวิตเตอร์ยังแบนไม่ให้หลายบัญชีโพสต์ข้อความเดียวกันอีกด้วย
นักวิจัยจากพิวยกตัวอย่างหนึ่งในบัญชีอัตโนมัติที่เป็นบอตอย่าง Netflix ซึ่งจะทวีตทุกครั้งที่มีรายการใหม่เพิ่มเข้ามาในระบบออนไลน์สตรีมมิง รวมถึงบัญชีของสำนักข่าวชื่อดังอย่าง CNN ที่ทวีตข่าวด่วนโดยอัตโนมัติ และ The New York Times ที่วิเคราะห์การแข่งขันเนชันแนลฟุตบอลลีก หรือ NFL แบบเรียลไทม์
นอกจากนั้น นักวิจัยยังระบุว่า บอตได้แชร์ทวีตที่มีเนื้อหาลามก อนาจาร เป็นจำนวนมาก โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของทวีตเหล่านั้นจะลิงก์ไปยังเว็บโป๊สำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งตรงกับข้อมูลจากนักวิจัยอีกกลุ่มที่ค้นพบว่า มีการจัดแคมเปญ ‘pornbots’ หรือ บอตลามก เพื่อโฆษณาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับเซ็กซ์และภาพลามก
ผลการศึกษาของพิวนี้มาจากการสำรวจทวีตภาษาอังกฤษราว 1.2 ล้านทวีต ซึ่งลิงก์ไปยังเว็บไซต์ชื่อดังรวม 2,315 เว็บไซต์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ช่วงกลางปี 2017